Latvia หรือสาธารณรัฐลัตเวีย ประเทศที่เกิดใหม่หลังจากเหตุการณ์ล่มสลายของสหภาพโซเวียต ตั้งอยู่ในยุโรปเหนือ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ สลับกับเนินสูง ประกอบไปด้วยแม่น้ำสายเล็กๆ เยอะมาก อากาศในประเทศนี้จะเย็นตลอดปี เมืองหลวงของสาธารณรัฐลัตเวีย คือ เมืองริกา ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลบอลติก บนปากแม่น้ำเดากาวา ด้วยลักษณะภูมิประเทศดังกล่าวทำให้ชาวต่างชาตินิยมไปเที่ยวที่สาธารณรัฐลัตเวีย แห่งนี้ โดยสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมีดังนี้
- Peter’s Church หรือโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ โบสถ์นี้มีชื่อเดิมว่า โบสถ์พ่อค้า เพราะในอดีตสถานที่แห่งนี้เป็นที่สำหรับการจัดประชุมของเหล่าพ่อค้า ในปัจจุบันโบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ที่สวยงามที่สุดในเมืองริกา
- The House of Blackheads เมื่อตอนที่มีเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 อาคารแห่งนี้ได้ถูกทำลายลง แต่เมื่อมาถึงปี พ.ศ.2538 อาคารแห่งนี้ก็ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ จนเสร็จสมบูรณ์ใน 4 ปีต่อมา
- The Dome Cathedral เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในบอสติก สร้างขึ้นหลังจากก่อตั้งเมืองริกาโดย Bishop Albert ในปี พ.ศ.1745 ด้วยแนวคิดที่ผสมผสานระหว่างศิลปะรูปแบบ บาร็อค กอธิค และโรแมนซ์ ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
- Three Brother เป็นอาคาร 3 หลังที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบยุคสมัยกลาง ถือว่าเป็นอาคารที่สวยงามแล้วยังเป็นที่อยู่อาศัยจริงของชาวลัตเวียอีกด้วย
- Rundale Palace (พระราชวังรันดาเล) พระราชวังแห่งนี้ถูกออกแบบโดย Franchesco Bartolomeo Rastrelli ผู้ซึ่งเป็นสถาปนิกชาวอิตาลี ตั้งอยู่ที่เขต Bauska Region พระราชวังตั้งอยู่ห่างออกไปจากเมืองริกา ประมาณ 65 ภายในประกอบไปด้วยห้องจำนวน 138 ห้อง แถมรอบๆ ยังถูกล้อมรอบไปด้วยสวนแบบบาโรก ซึ่งทำให้พระราชวังแห่งนี้สวยงามมาก พระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการระลึกถึง Anna Jaonovna ผู้เป็นจักรพรรดินีแห่งรัสเซีย โดย Ernstjohan Biron คือเจ้าของคนแรกของพระราชวังแห่งนี้
- Riga Castle เป้นอีกสถานที่หนึ่งที่สวยงามมากของเมืองลัตเวีย แต่ปัจจุบันสถานที่นี้เป็นที่อยู่ของประธานาธิบดีของลัตเวีย ภายในมีพิพิธภัณฑ์ Riga Castleซึ่งในอดีตเป็นที่อยู่ของLivonian Order ที่ถูกสร้างขึ้นใน พ.ศ.1873 แล้วถูกทำลายลงโดยชาวเมือง ในศตวรรตที่ 15
- Jurmala เป็นชายทะเลที่อยู่ห่างจากเมืองริกาประมาณ 20 ในอดีตชายทะเลแห่งนี้เป็นเมืองของชาวประมง แต่ปัจจุบันได้กลายมาเป็นเมืองตากอากาศที่ใหญ่ที่สุดในรัฐบอลติก ชายทะเลแห่งนี้มีหาดทรายสีขาวละเอียดทอดยาวถึง 32 km. น้ำทะเลสีใส โอบล้อมไปด้วยสภาพแวดล้อมที่ดูเงียบสงบและปลอดภัย แถมยังมีสถาปัตยกรรมที่สร้างด้วยไม้เกือบทั้งหลัง ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของทะเลแห่งนี้ นอกจากนี้ยูรมาลา ยังได้รับการรับรองว่าเป็นเมืองตากอากาศในระดับ international อีกด้วย
นอกจากนี้เมืองริกา ยังได้รับการรับรองว่าให้เป็นเมืองมรดกโลก เพราะคุณสมบัติของความเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรม และเมื่อนักท่องเที่ยวมาเยือนยังเมืองริกา ท่านจะได้รับความรู้สึกถึงเหมือนกำลังย้อนยุคไปในยุคกลางเพราะสถาปัตยกรรมแบบ Art Nouveau ที่สวยงามมากๆ